ผู้ติดตาม

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Android ปะทะ iOS แบบวัดกันที่ตัวเลข


รูปจาก: http://img.brajeshwar.com/google-apple.jpg


Android ปะทะ iOS แบบวัดกันที่ตัวเลข


ขอพักเรื่องการรีวิว Gadget ซักตอนนะครับ อยากให้ท่านผู้อ่านได้เปลี่ยนแนวกันบ้าง และผมก็ว่าแนวโน้มเรื่องตลาดของระบบปฏิบัติการ Android กับ iOS ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยุ่ไม่น้อยทีเดียว
เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ผมได้เขียน บล็อกตามคำขอ iOS vs Android เลือกอันไหนดี ไปแล้ว แต่ทว่าเป็นในแง่ของความเห็นของผมในแนวทางการเลือกว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการใดดี ซึ่งทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของความเป็นอัตนัย (Subjective) ที่ไม่สามารถวัดออกมาเป็นตัวเลขชัดเจนได้
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ (9 มิ.ย.) ผมเพิ่งได้อ่านบทความที่น่าสนใจของเว็บไซต์ Computerworld ชื่อ “Android vs. iPhone and iPad by the numbers” ครับ บทความนี้เป็นการวิเคราะห์สงครามระหว่างระบบปฏิบัติการ Android กับ iOS ด้วยตัวเลขจริง และตัวเลขการคาดการณ์จากบรรดาเหล่าค่ายนักวิเคราะห์ชื่อดังกันเลย ผมเลยอดไม่ได้ครับ ที่จะต้องเรียบเรียงมาให้มิตรรักแฟนบล็อกนานาสาระของนายกาฝากได้อ่านกัน (แน่นอนว่า ผมได้ใส่ข้อมูลเพิ่มเติมลงไปให้ท่านผู้อ่านด้วยแล้วเช่นกัน)
เรื่องราวอันมีสาระของ นานาสาระกับนายกาฝาก สนับสนุนโดย
  • Dell Thailand : The power to do more ตอนนี้มีผลิตภัณฑ์ในหมวด Mobility ด้วยกัน 2 ตัวแล้วนะครับ ได้แก่ Dell Streak 5 กับ Dell Venue ครับ ติดตามข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับ Dell ได้ที่ http://www.ilovedell.com
  • ยังเหลืออีก 1 ครั้ง สำหรับกิจกรรมดีๆ จาก กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย ซึ่งจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพงานให้กับคนทำงาน เพื่อให้วิเคราะห์ถึงสุขภาพในการทำงาน โดยสามารถพบกับอเด็คโก้ได้ที่ อาคาร จามจุรี สแควร์ (16 มิ.ย. 54) เวลา 9:00 – 17:00 น. รายละเอียดเพิ่มเติม http://bit.ly/l5V3rp
  • i-mobile 3GX สปีดล้ำแบบ 3G ตัวจริง กับ 3 เหตุผลที่คุณควรเลือกใช้ 1) ความเร็วสูงสุด 7.2Mbps 2) เป็นผู้ให้บริการที่มียอดผู้ใช้บริการสูงสุดในกลุ่ม MVNOs ของ TOT3G และ 3) บริการหลากหลาย ทั้งซิมเติมเงิน และซิมรายเดือน พร้อมแพ็กเกจมากมาย สนใจรายละเอียด คลิกเลย
Samsung Socially Smart
เอาละครับ มาเข้าเรื่องราวของเรากันต่อได้เลย
วัดกันที่ตลาด Tablet
imageผมย้ำแล้วย้ำอีกบ่อยครั้ง ทั้งในบล็อกของผม ในคอลัมน์ทั้งหลายแหล่ที่ผมเขียน และในหลายๆ การบรรยายของผม ว่าปี 2554 นี้จะเป็นปีทองของอุปกรณ์ Tablet ดังนั้นเราก็ควรมานั่งดูกันหน่อยไหมครับว่า เทียบระหว่าง Android และ iOS แล้ว เป็นยังไงกันบ้าง?
จากการวิเคราะห์ของ Gartner เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนถึงปี พ.ศ. 2558 จะมีระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์ Tablet อยู่ด้วยกัน 5 ตัวหลักๆ ได้แก่ iOS, Android, MeeGo, WebOS และ QNX แล้วก็จะมีระบบปฏิบัติการอื่นๆ ยิบย่อยอีกเล็กน้อยๆ (เดาว่า Windows 8 ก็น่าจะอยู่ในกลุ่มนั้น [ฮา])
แต่ระบบปฏิบัติการที่จะครองส่วนแบ่งการตลาดหลักๆ เลย จะมีด้วยกัน 2 ตัว คือ iOS และ Android ที่จะครองส่วนแบ่งการตลาดรวมถึง 85.7% ในปี พ.ศ. 2558 แน่นอนว่าจากการคาดการณ์ของ Gartner นั้น iOS จะยังคงครองตำแหน่งแชมป์ส่วนแบ่งตลาดของระบบปฏิบัติการสำหรับ Tablet อยู่ แต่ที่น่าสนใจคือแนวโน้มต่างหาก เพราะปี 2553 ที่ผ่านมานั้น iOS (ก็คือ iPad นั่นแหละ) ครองส่วนแบ่งตลาดแบบนำโด่งถึง 83.9% ในขณะที่ Android นั้นมีส่วนแบ่งตลาดแค่ 14.2% เท่านั้นเอง
imageเหตุการณ์พลิกกับแบบนี้เราได้เห็นกันมาแล้ว ตอนที่ Android Smartphone พลิกมาเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดแทน iPhone หลังจากที่ขับเคี่ยวกันมาราว 4 ปี และสำหรับ Tablet นี่ Google ก็เพิ่งเปิดตัว Android Tablet ตัวจริงอย่าง Motorola Xoom ไปในปีนี้ และหากประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจริงๆ ละก็ ในช่วงปี พ.ศ. 2558 – 2560 เราคงได้เห็นส่วนแบ่งการตลาดของระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์ Tablet ตกไปอยู่กับ Android แน่ๆ
ซัดกันที่ตลาด Smartphone
คงไม่ต้องพูดซ้ำกันมากครับว่า Android นั้นได้แซงหน้า iOS ไปแล้วในตลาดสหรัฐอเมริกา แต่ที่น่าสนใจคือภาพรวมของส่วนแบ่งตลาดระดับโลกต่างหากครับ ซึ่ง IDC ก็ได้คาดการณ์เอาไว้ว่า Android นั้นจะครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่ง ที่ 43.8% ในขณะที่ iOS จะเป็นอันดับที่สาม ด้วยส่วนแบ่งประมาณ 17.9% … โดยที่ลำดับที่สองนั้นเป็น Windows Phone 7 อยู่ที่ 20.3% ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วมมือกันระหว่าง Microsoft กับ Nokia ครับ … และ Gartner ก็ได้คาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกันด้วย
ส่วนแบ่งตลาดที่สูงลิ่วของ Android นี้ชัดเจนเลยว่าเป็นผลมาจากการที่มีผู้ผลิตจำนวนมาก แถมแต่ละรายก็ใหญ่ๆ ทั้งนั้น เช่น HTC, Samsung, LG เป็นต้น และยังมีการผลิตออกมาหลากหลายรุ่น มีไล่ราคาตั้งแต่ไม่กี่พันบาทไปจนถึงเกือบสองหมื่นบาท ทำให้เจาะเข้ากลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้มากมาย
แต่จุดที่น่าสนใจก็คือ Asymco ได้เผยตัวเลขเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมาว่า หากมองในภาพรวมอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือแล้ว (หมายถึงโทรศัพท์มือถือทั่วไปบวกกับ Smartphone) Apple นั้นมีส่วนแบ่งอยู่ที่ราวๆ 7% ของรายได้ทั้งหมดในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือซึ่งถือว่าน้อยมากๆๆๆ แต่พอกลับมามองที่กำไรทั้งหมดในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือแล้ว ปรากฏว่า Apple นั้นครองส่วนแบ่งกำไรมากที่สุดคือ 57% เลยทีเดียว
ในแง่ของความสามารถในการทำกำไรนั้น ผมไม่ได้บอกว่า Android ทำได้ไม่ดีนะครับ แต่ว่า iOS นั้นสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่ Apple มากกว่ามากๆๆๆๆ เลยทีเดียว
ชนกันด้วยจำนวน Apps
imageนอกจากยอดขายแล้ว ก็มีเรื่องของจำนวน Apps นี่แหละครับที่ถูกหยิบยกมาเกทับบลัฟกันแหลกตลอดเวลา
Third Party อย่าง Lookout Mobile ได้เผยยอดจำนวน Apps ที่มีให้ดาวน์โหลดพบว่า เมื่อเดือนกุ่มภาพันธ์ที่ผ่านมา จำนวน Apps เป็นดังนี้
iOS มีทั้งสิ้น 348,894 Apps
Android มีทั้งสิ้น 87,785 Apps
ซึ่งหากพิจารณาจากกราฟด้านซ้ายมือนี้ก็ต้องตอบว่าทั้งสองระบบปฏิบัติการนั้น มีการเติบโตในแง่ของจำนวน Apps อย่างต่อเนื่อง แต่ว่าระบบปฏิบัติการ iOS นั้นจะมีการเติบโตที่สูงกว่า (แต่หากเทียบเป็น % การเติบโตแล้ว Android เติบโต 127% ส่วน iOS เติบโต 44% เท่านั้น) อย่างไรก็ดีตัวเลขนี้ยังขัดอยู่กับตัวเลขจำนวน App ที่ Google เปิดเผยอย่างเป็นทางการว่ามีมากกว่า 2 แสนแล้ว (เผยในงาน Google I/O เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา) ก็ต้องดูว่าเราจะเชื่อใครต่อไป
imageLookout ยังเผยตัวเลขต่อไปอีกว่า ถ้าเปรียบเทียบจำนวนนักพัฒนา App แล้ว ถ้าดูที่กราฟจะเห็นว่ายอดการเติบโตของนักพัฒนาสาย iOS นี่พุ่งพรวดๆ เลย ในขณะที่ยอดนักพัฒนาสาย Android นั้นเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไป
ตัวเลขของ Lookout เผยว่า เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จำนวนนักพัฒนาสาย iOS มี 72,682 คน ส่วนสาย Android มี 14,111 คน ครับ
imageเข้าใจว่าที่ตัวเลขออกมาเป็นแบบนั้น กราฟซ้ายมือนี่น่าจะให้คำตอบได้ไม่มากก็น้อยละครับ
ดูจากตัวเลขแล้วจะเห็นได้ว่าจำนวน Apps ที่เป็น Paid Apps (ต้องเสียเงินซื้อ) บนระบบปฏิบัติการ Android ยังมีสัดส่วนที่น้อยอยู่ เมื่อเทียบกับระบบปฏิบติการ iOS ส่วนหนึ่งเพราะว่าเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมานั้น Google ยังคงเปิดให้มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น ที่สามารถซื้อ App บน Android Market ได้ แต่ว่าเมื่องาน Google I/O ที่ผ่านมา ตอนนี้มีราวๆ 131 ประเทศแล้วที่สามารถซื้อ App บน Android Market ได้แล้ว คาดว่าในอนาคตก็จะได้เห็น Paid Apps บน Android กันมากขึ้น และจำนวนนักพัฒนาสาย Andoird ก็น่าจะมากขึ้นด้วยเช่นกัน
imageimage
อีกตัวเลขที่น่าสนใจที่ Lookout เอามาเปิดเผยคือ สัดส่วน Apps ที่ระดับราคาต่างๆ กันครับถ้าอ้างอิงจากตัวเลขนี้จะเห็นว่า Apps ของ Android นั้นมีแนวโน้มที่จะมีแต่ App แพงๆ (มากกว่า $1 ขึ้นไป) กันมากขึ้น ในขณะที่สัดส่วนของ Apps ในราคาต่างๆ บนระบบปฏิบัติการ iOS นั้นยังไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก
แม้หลายๆ คนจะบอกว่า Apps ส่วนใหญ่บน Android นั้นจะฟรี แต่ก็ต้องขอบอกว่า Apps ส่วนใหญ่บน iOS แม้ว่าจะต้องเสียตังค์ แต่ครึ่งหนึ่งนั้นราคาเพียง $0.99 เท่านั้นเอง
สรุปในภาพรวม
ระบบปฏิบัติการใดจะมาเป็นที่สองในแง่ของส่วนแบ่งการตลาดนั้นก็คงต้องรอดูกันต่อไป แต่อันดับหนึ่งนี่คงหนีไม่พ้นระบบปฏิบัติการ Android แน่ๆ จากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวถึงไปในข้างต้น ทว่าสงครามมันไม่ได้จบเพียงแค่การแย่งชิงเป็นอันดับหนึ่งในส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการเท่านั้น สำหรับ Android แล้ว มันยังมีสงครามแย่งชิงความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในยอดจำหน่าย Android Smartphone/Tablet อีกด้วย
Smartphone ในตลาดโลกนั้น Gartner คาดการณ์ว่าจะมียอดจำหน่ายในปี พ.ศ. 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัวของยอดจำหน่ายในปี พ.ศ. 2553 เลยทีเดียว คือ เพิ่มจาก 67 ล้านเครื่องเป็น 539 ล้านเครื่อง ดังนั้นสงครามแย่งชิงความเป็นเจ้าก็คงจะระอุกันไม่น้อยทีเดียว
ก็ยังต้องจับตามองกันต่อไปละครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น